loei_culture  ค่ำวันหนึ่งที่ท้องทุ่งนาหนองข้อง เฉ่ มะเขือพวง แว่วเสียงลำนำกลอนรักเป็นสำนวนที่คุ้นเคย...หนุ่มสาวคู่นั้นนั่นเอง



ผู้สาวนั่งเข็นฝ้าย ........ชายกะนั่งเคียงกัน
พรรณนาคำกลอน ......เกี้ยวคำผญาเว้า
สาวกะเอาคำโต้ .........โยเยให้ฮู้ท่า
ส่วนว่าบาบ่าวท้าว .......กะเพียรเว้าว่าฮักหลาย
สาวกะบอกว่าอ้าย ......อย่าสิหล่ายแต่คำตั๋ว
น้องนี่กลัวคำลวง .........อย่าล่วงวาจาดื้อ
คันบ่คือคำเว้า ........... อย่าสิเอามาเว้าว่า
สิมาต้มผู้ข้า ..............ปะเดี๋ยวฟ้าสิผ่าเอา....สาเด๋
บัดนี่ชายกะเว้า ......... เอามือยกสาบาน
ขานเป็นวาจาไข .........ว่าดั่งใจคำเว้า
คันข้าเอาคำต้ม ..........เป็นคารมย์เว้าหล่าย...สาแหล๋ว
ขอให้ฟ้าผ่าอ้าย ............ ให้ตายแท้ขั่นบ่จริง
สาวกะนั่งเงียบนิ่ง .........ครุ่นคิดอยู่ในใจ
แล้วจั่งไขวาจา ..........ตอบบาพี่ชายท้าว
อ้ายสิเอาจริงแท้ ..........บ่มีแปลซั่นบ้อพี่
คันคิดดีแท้แท้ ............ให้ถามแม่เบิ่งก่อนนา
ตกลงกันแล้วน่า .........กะจั่งว่าได้มาขอ
กะจั่งขอยอยก ...........ขันหมากมาเพียงพร้อม
จั่งได้ดอมชมชื่น ..........เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย
นี่จั่งสมครบด้วย ..........บทเบื้องสิแต่งงาน ...นี่แหล่ว
นี่จั่งแม่นแบบบ้าน ..........ของเก่าโบราณเดิม
เติมขึ้นมาทีหลัง ............หากบ่คือแนวนี่
อันแนวดีมันเบิดสิ้น ........มีแต่กินแล้วจั่งแต่ง
สาวกะห่าวแข้งแข้ง ......... แซงหน้าบ่ว่ากัน ฯ...เหอะ ๆ...

loei_culture

โอ้ยน้อ...นางเอ้ย
บุญกุศลสร้างได้ฮ่วมทางดอกจั่งหว่า
คงเป็นตาชื่นมื่นทุกคืนเช้าเจ้าหว่าใด๋
คันเจ้าไรลืมทิ่มคงขึ้นหนิมให้เขาส่า
เป็นคือจั่งมีดพร้าคันฝนได้กะบ่คม....สั้นแหล่ว..น้องสาวหล่าเอ้ย

บ่ได้มาสองสามมื้อคือจั่งหว่านอเป็นปีสันบ๋อ
ครั้นสิจากไปแรมเดือนใจผี่ซายคงอุกเอ้า..
เจ้าอย่าไรลืมเลี้ยวทางเทียวที่เคยหย่าง..
ใจผี่ซายคงอ้างว้างคันนางน้อยบ่หว่าจา..
แนวคำจายังบ่คล่องตามครรรองน้องส่อยเบิ่ง
ไปเหิงเหิงหากสิฮู้หว่าซายนั้นเฝ้าเบิ่งแยง..อยู่เด๊ะ..

 

ชาย :       สุขสำบายหมั้น                     เสมอมันเครือเก่าบ่นอ

เทิงพ่อแม่พี่น้อง                  สำบายดีอยู่สู่คนบ่เด

หญิง :             น้องนี้สุขสำบายหมั้น            เสมอมันเครือเก่าอยู่เด้ออ้าย

เทิงพ่อแม่พี่น้อง                  สำบายพร้อมสู่คน

ชาย :  อ้ายอยากถามข่าวน้อง                       ว่ามีผัวแล่วไป่

หรือว่ามีแต่ซู้                                      ผัวซ้อนหากบ่มี

** พี่นี้แนวควายตู้                                   หากินบ่คือเพิ่น

ประสงค์กินแต่หญ้า                            สวนห้างจั่งแม่นคอ

พอเหลียวหลังเห็นหน้า                       สาวฮ้างดีใจเต้นเข้าใส่แท้แหล่ว

** อ้ายนี้เป็นดังเซื้อสะเพาคัง                  บ่หนีฟองแก้งใหย่

อ้ายสิเบ็ดใส่เฝือน                                อ้ายสิเฝือนใส่ก้อน

อ้ายสิย้อนใส่แก้ง                                 ตำแล้วจั่งสิถอย

** ผู้งามงามจั่งน้อง                                  แม่นแม่อุ่นทานหยัง

หรือว่าแม่น้องนั้น                               ทานดอกคุตทังกอ

หรือว่าแม่น้องนั้น                              ทานดอกยอทั้งต้น

น้องจังงามลื่นล้น                               ซาวบ้านเพิ่นซ่าลือ

** น้องผู้งามงามนี้                    ยืมเพศผู้ใด๋มา

น้องผู้งามงามนี้                    ยืมขาผู้ใด๋ย่าง

ขี้ฮ้ายจั่งอ้าย                           แม่นยืมซ้างเพิ่นขี้มา

หญิง :  คันแม่นเจ้ามักข้อย               แกงหอยให้มันเปื่อย

แกงปาให้เปื่อยก้าง             แกงซ้างให้เปื่อยงา

คันบ่เป็นตาส่อน                  สิคาดห่างลงสา

คันบ่เป็นตาสา                      สิแบกกะโซ้คืนบ้าน

**  น้องนี่แนวนาวเซื้อ             บักหอยนาหน้าต่ำ

บ่แมนหงคำบินผ่านฟ้า      จั่งสมอ้ายผู้งาม  ดอกนา

** คันอ้ายมีเมียแล้ว                  อย่าลงเฮือนให้หมาเห่า

ให้อ้ายนั่งเค้าเม้า                  ไพหย่าอยู่เฮือน

ชาย :  บัดนี้ดึกคล้อย ๆ                   ลมวอยหนาวน่วง

สุดเป็นห่วงนาถน้อง          ใจสะบั้นสั่นสาย

พี่สิลาก่อนเด้อหลา              สายตาซู้เพิ่น

วาสนาพี่ฮอดเจ้า                  เซาแล้วบ่กาย    ดอกนา

loei_culture

เว้าหลายละ...อยากข้าวเด้ พี่น้อง เอาอาหารบ้านเฮามาฝากเป็นของแถมกัน อิอิ

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

loei_culture

 

ครั้นพอจิ้มแข้วเสร็จ เฉ่ มะเขือพวงก็ลุกไปสุมไฟให้ควายที่ท้ายบ้าน พร้อมเงี่ยหูฟัง ลำนำรักกลอนนั้น...แว่วมากับสายลมหนาว

 

Go to top