เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ดนตรีร็อกคือตัวแทนของความจริงใจ รู้สึกนึกคิดเช่นใด ก็สื่อสารตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน ถ้ามีไทม์แมชชีนย้อนกลับสู่ยุค “อัลเทอร์เนทีฟร็อก” กำเนิดขึ้นในเมืองไทย แน่นอนว่าวันรุ่นยุคนั้นไม่มีคนใดไม่รู้จัก “วงบาร์บี้” มาก่อน “แพท-ชมธวัช ยงกิตติกุล ” อดีตมือกีตาร์ของวง เผยความรู้สึกเมื่อครั้งจับคอร์ดกีตาร์ครั้งแรกก่อนหลายปีถัดมาโด่งดังเป็น พลุแตก ด้วยประโยคสั้นๆ แต่ทรงพลังว่า “แค่อยากเล่น” ในวันนี้คำตอบของอดีตมือกีตาร์ ผู้สั่งสมประสบการณ์งานดนตรีอย่างโชกโชนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ กลับไม่แตกต่างจากเดิม เมื่อมีคนถามเหตุผลว่า ทำไมจึงจับมือกับเพื่อนอีกสามคนได้แก่ อภิรัตน์ เตชวัชรา อดีตมือเบสวงบาร์บี้, สุกิจ ตรัยวนพงศ์ และ สมประสงค์ สหวัฒน์ ก่อตั้ง “ร็อกคาเดมี่” โรงเรียนดนตรีร็อกแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2555
“อยากเห็นคนเล่นดนตรีออกจากใจ ปลดปล่อยอารมณ์ดิบออกมาทางบทเพลง ไม่ต้องคำนึงถึงเทคนิคหรือทฤษฎีอะไรมากมาย แค่มีความสุขและสนุกกับมันเท่านั้น” ชมธวัชกล่าว
ร็อกคาเดมี่คือ โรงเรียนดนตรีสำหรับทุกคนที่มีความเป็นชาวร็อกในหัวใจ ตั้งอยู่บริเวณเอ สแควร์ สุขุมวิท 26 แหล่งชุมชนคนรักเสียงเพลง ภายนอกดูปลอดโปร่งโล่งตาภายในอาคารเรือนกระจก เมื่อก้าวเข้ามาพบกับห้องเขียวพื้นที่นั่งพักเตรียมตัวก่อนขึ้นเวที ซึ่งในกรณีนี้ก็คือห้องเรียนสำหรับสอนกีตาร์ เบส กลอง คีย์บอร์ด และการขับร้องทั้งหมด 10 ห้อง สตูดิโอสำหรับซ้อมดนตรีอีก 3 ห้องและสตูดิโอบันทึกเสียงอีกหนึ่งห้องนั่นเอง ทุกห้องถูกติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ตามมาตรฐานที่ในวงการดนตรีระดับมืออาชีพใช้งานจริงทุกชิ้น ขณะที่หลักสูตรมีให้เลือกเรียนด้วยกันทั้งหมด 3 คอร์ส ได้แก่ ร็อกคาเดมี่ 101 หลักสูตรเบื้องต้นเรียนตัวต่อตัว, ร็อกคาเดมี่ ไลฟ์ เรียนแบบรวมกลุ่มในห้องซ้อม ตบท้ายด้วยการแสดงโชว์คอนเสิร์ต และ ร็อกคาเดมี่ อาร์ติส ดีเวลลอปเมนท์ เน้นการพัฒนาความฝันทางดนตรี
ทฤษฎีการสอนนั้น ชมธวัช เล่าว่าคล้ายกับกรอม้วนเทปคลาสเซ็ทกลับมาจุดเริ่มต้นหน้าเอ ข้ามขั้นเรียนตัวโน้ตพื้นฐานไปสู่การเล่นจริง คนที่ก้าวเข้ามาเป็นไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเป็นขอเพียงแค่มีใจที่พร้อม ส่วนตัวชอบเอาการแสดงสดมาตั้งต้นก่อนแล้วสอนกลับว่าเพลงนี้มันเกิดอะไรขึ้น ในนั้น โดยบทเพลงที่นิยมนำมาบรรเลงไม่เก่าคร่ำครึจนผู้เล่นนึกไม่ออก แต่หยิบเอาเพลงจากศิลปินร็อกคุ้นหู เช่น กรีน เดย์, โอเอซิส, เดอะ บีทเทิล, โรลลิ่ง สโตน, เนเวอร์นา หรือเปิดกว้างให้แสดงเจตจำนงค์ถึงบทเพลงที่พวกเขาอยากเล่นด้วยตัวเอง แง่ดีคือจะได้ความเป็นธรรมชาติไม่พะวักพะวงกับคอร์ดจนเกร็ง
นอกจากนี้หลักสูตรที่ภาคภูมิใจในการนำเสนอคือ ร็อกคาเดมี่ไลฟ์ ระหว่างคอร์สมีงาน “โชว์เคส” ซึ่งนักเรียนได้โชว์ทักษะด้วยการแสดงสดกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน หรือร่วมแจมกับอาจารย์ก็ได้ มุมมองตรงนี้มองว่ามีประโยชน์มาก การเล่นเป็นวงขัดเกลานิสัยด้านความสามัคคี รักเพื่อนพ้อง เพราะการแสดงจริงย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ ตัวเองยอมรับเคยเล่นผิด แต่ผิดแล้วแก้ไขสถานการณ์อย่างไร เล่นผิดแต่จังหวะของเพลงยังไม่หยุด เสียงดนตรีชิ้นอื่นๆ ของเพื่อนร่วมวงคงขับเคลื่อนไปเรื่อย เราต้องใช้สมาธิดึงตัวเองกลับมาในขณะที่เพื่อนๆ กำลังโอบอุ้มภาพรวมของการแสดงให้สำเร็จลุล่วง นอกเหนือจากความสนุกยังเป็นการฝึกให้เด็กกล้าแสดงออก วันข้างหน้าไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะไปยืนอยู่จุดไหนของสังคม แต่อย่างน้อยแน่นอนพวกเขามีความมั่นใจ มีน้ำใจ ทำงานเป็นทีมไม่ฉายเดี่ยว ซึ่งนิสัยเหล่านี้ติดตัวกลับไปปรับใช้ในสังคม
หลังจากเปิดสอนมาไม่ได้ชมธวัชมองเห็นพลังนอกเหนือจากที่คาดคิดหลายอย่าง ตอนแรกตั้งใจรับนักเรียนอายุระหว่าง 7-18 ปีเป็นหลัก แต่พอเปิดมีตั้งแต่ 3 ขวบครึ่งถึงอายุ 65 ปี สาเหตุที่ไม่อยากรับเด็กมากเพราะไม่มีอาจารย์ด้านจิตวิทยาเด็กเล็กขนาดนั้น แต่พอเห็นพรสวรรค์ของเด็กต้องยกธงขาวยอมแพ้ บางครั้งผู้ปกครองมาคอยรับส่งเห็นแล้วต่อมความอยากกำเริบ กระซิบถามว่ารุ่นนี้ยังเล่นได้ไหม “อยากทำความฝันสมัยเด็กๆ ให้เป็นจริงบ้าง” ก็บอกเล่นได้มาลองกันเลย ดังนั้นจึงเปิดช่วงอายุการสอนกว้างกว่าเดิม กลายเป็นจุดผสานคนสองยุคสองเจเนชั่นเข้าด้วยกัน พลอยทำให้อาจารย์ผู้สอนมีความสุขไปด้วย กลายเป็นแรงบันดาลใจที่เทกลับมามอบให้อาจารย์ยิ่งตั้งใจถ่ายทอดวิชาและ ประสบการณ์อย่างไม่มีกั๊ก
พลังความมันกำลังทวีขึ้นเรื่อยๆ ตามวันเวลา หากขอสามคำนิยามร็อกคาเดมี่ คงไม่มีคำไหนเหมาะไปกว่า “มา-ร็อก-กัน” อีกแล้ว สำหรับผู้สนใจสมัครเรียนเขย่าความมันได้ด้วยตัวเอง ตามเวลาเปิดทำการ ทุกวันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 11.00-20.00 น. ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ โทร.0-2261-3833.
ที่มา:http://www.dailynews.co.th/society/235875
