เฉ่คำราม

จากกระทู้พันทิบของ คุณ สมาชิกหมายเลข 2208683 ได้นำเสนอเรื่องราวน่าสนใจของ 33 อัลบั้ม อย่างค่ายเพลง GMM Grammy

เมื่อมีการจัดอันดับ 33 อัลบั้มที่มียอดจำหน่ายสูงสุด
เรียงจากลำดับ 33 ไปสู่ลำดับที่ 1
โดยนับเฉพาะสตูอัลบั้มเดี่ยว + อัลบั้มเปลี่ยนปก
ไม่นับอัลบั้มโปรเจคพิเศษต่างๆ เช่น 6.2.12 / งานซนคนดนตรี / เบิร์ดเสก / ขนนกกับดอกไม้ /seven/ ฯลฯ

ยอดจำหน่ายที่รายงานเป็นช่วงดังนี้
ตั้งแต่ 1 ล้านตลับ - ก่อน 1.5 ล้านตลับ
ตั้งแต่ 1.5 ล้านตลับ - ก่อน 2 ล้านตลับ
ตั้งแต่ 2 ล้านตลับ - ก่อน 3 ล้านตลับ
ตั้งแต่ 3 ล้านตลับ - ก่อน 5 ล้านตลับ
เกิน 5 ล้านตลับ
ดังนี้

     นิโคล เทริโอ เริ่มต้นบนถนนสายดนตรีจากการเป็นผู้ชนะประกวดร้องเพลง ในโครงการสตาร์เสิร์ชรุ่นที่ 1 และได้ชิมลางกับเพลง "ไม่แน่ใจ" เพลงประกอบละครเงามรณะซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง นิโคลใฝ่ฝันอยากทำเพลงป็อปแดนซ์โดยมีซุปเปอร์สตาร์อย่าง คริสติน่า อากีล่าร์ เป็นไอดอล แต่ด้วยบุคลิกภาพที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ทีมงานเล็งเห็นถึงศักยภาพและคอนเซ็ปต์ที่เหมาะสมลงตัว จนกลายมาเป็นศิลปินหน้าใหม่ของแกรมมี่ กับอัลบั้มแรกในชีวิต "กะ-โป-โล-คลับ"

     เพียงแค่ทีเซอร์ก็สร้างกระแสถูกพูดถึงไปทั่ว ก่อนที่จะเปิดตัวพร้อมกับความน่ารักแก่นเซี้ยวในเพลง "กะโปโล" ท่าทัดหูที่เป็นเอกลักษณ์ในเพลง "ต่อไปนี้นะ" และคนทั้งประเทศก็ต้องเซอร์ไพรส์อีกครั้งเมื่อได้รู้อายุจริงของเธอ อัลบั้มนี้ยังมีเพลงฮิตอีกมากมาย อาทิ พอแล้ว, Oh Oh, วันที่อ่อนไหว, ไม่ใช่ตัวฉัน, และ ฉันโกหกเธอ ทำให้อัลบั้มแรกในชีวิตของเธอประสบความสำเร็จสร้างยอดขายเกินล้านตลับในที่สุด

     งานเพลงชุดที่ 2 ของคริสติน่า อากีล่าร์ ซึ่งในชุดนี้เธอยังคงเป็นแฟชั่นไอคอน ที่ผู้หญิงทั่วประเทศต่างยกให้เป็นต้นแบบ คริสติน่าเริ่มมีชื่อเสียงในระดับสากล เมื่อหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งถึงการเป็นศิลปินคนแรกของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับสากล MTV : The International Viewer's Choice Award 1992 จากเพลง "จริงไม่กลัว" นับเป็นรางวัลใหญ่สูงสุดจากคะแนนโหวตทั่วทวีปเอเชีย จนมีการส่งอัลบั้มพิเศษออกไปขายยังต่างประเทศ และได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น

     ในอัลบั้มนี้ ยังได้ดารานักแสดงจากฮ่องกง ไมเคิล หว่อง มาร่วมแสดงในมิวสิควีดีโอในเพลง "เวลาไม่ช่วยอะไร" และ "อย่าให้ถึงวันนั้นเลย" และมีเพลงฮิตอีกหลายเพลง อาทิ ไม่อยากจะเชื่อเลย, ปัญหาโลกแตก, ขอให้โชคดี, เสียใจเสียฟอร์ม, และ ทำไม่ลง ซึ่งก็มีกระแสตอบรับอย่างดี จนคอนเสิร์ตบอดี้มูฟของเธอขายบัตรหมดเกลี้ยงทั้ง 2 รอบ ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และอัลบั้มนี้ก็สามารถสร้างยอดขายเกินล้านตลับให้กับคริสติน่าอย่างต่อเนื่องเป็นชุดที่ 2 อีกด้วย

     วงดนตรีแนวคันทรี่ร็อค ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์มือทองอย่าง ชาตรี คงสุวรรณ "สิงห์หนุ่ม" ชื่อวงที่เรียกเล่นๆของทีมงาน ก่อนที่จะมีชื่อที่ลงตัวอย่างเป็นทางการในนาม "อินคา" พร้อมกับชื่อชุดที่เหมาะสมกับพวกเขาอย่าง "คนล่าฝัน"

     เปิดตัวอย่างฮือฮากับภาพลักษณ์วงคันทรี่ร็อคผมยาวในเพลง "หมากเกมนี้" ด้วยสไตล์ดนตรีที่แตกต่าง และการร้องประสานเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีเพลงดังอีกเกือบทั้งอัลบั้ม อาทิ ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ, กลับคืนรัง, ขอเริ่มใหม่, ไม่เห็นใครแน่นอน, หลงหลงลืมลืม และ หลบไปให้พ้น ทำให้อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จ โด่งดังไปทั่วประเทศจนยอดขายสูงเกินล้านตลับในที่สุด

     เปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวอัลบั้มแรกในชีวิต หนุ่ย อำพล ลำพูน ในภาพลักษณ์ร็อคเกอร์มาดเข้มที่ปรากฏตัวพร้อมเปลวเพลิง ใน MV "วัตถุไวไฟ" ที่สื่อถึงความร้อนแรงของบทเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม ก่อนจะสร้างความฮือฮาด้วยเพลง "เสียมั้ย" เพลงร็อคจังหวะมันๆ จากปลายปากกาของ แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ซึ่งได้สร้างความแปลกใหม่ด้วย MV ที่มีแดนเซอร์สาวพร้อมท่าเต้นที่ติดตาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ เกิดเป็นท่าจำที่ฮิตมากในหมู่แฟนเพลง และเป็นเพลงร็อคเพลงแรกๆที่มีท่าเต้น เพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้ก็ล้วนได้รับความนิยมจนกลายเป็นเพลงฮิต อาทิ ลางร้าย, นึกหรือว่าไม่รู้, หยุดมันเอาไว้, บ่อนทำลาย, แผลในใจ, และ ยังไงก็โดน

     จากกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามนี้เอง ทำให้ความแรงของอัลบั้มนี้พุ่งทะยานเกินล้านตลับ นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปี ถือเป็นการแจ้งเกิดในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างสวยงามของ ร็อคเกอร์นาม "อำพล ลำพูน"

     ผลงานลำดับที่ 2 ของตำนานร็อคมือขวา วงไมโครกลับมาสร้างความร้อนแรงแก่วงการเพลงด้วย เพลง "หมื่นฟาเรนไฮต์" ชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้มซึ่งเรียกกระแสนิยมจากชาวร็อคได้เป็นอย่างดี ก่อนจะปล่อยเพลง "เอาไปเลย" เพลงร็อคเท่ๆที่มีท่อนฮุคติดหู และลุคของนักร้องนำสุดเท่ของหนุ่ย ที่กลายเป็นไอดอลของชาวร็อค กวาดความนิยมอย่างต่อเนื่องไปทั่วประเทศ

     เพลงในอัลบั้มนี้เกือบทุกเพลงทยอยขึ้นชาร์ตเพลงฮิตยึดกระแสตอบรับจากแฟนเพลงอย่างเหนียวแน่น อาทิ จริงใจซะอย่าง, พายุ, ใจโทรมๆ, บอกมาคำเดียว และ โชคดีนะเพื่อน และด้วยเพลงร็อคที่เข้าถึงอารมณ์ร็อคและซึ้งกินใจแฟนๆทั่วประเทศ อัลบั้มหมื่นฟาเรนไฮต์ยังทำยอดขายแรงทะลุปรอทสู่ล้านตลับไปอย่างไม่ยากเย็น สมศักดิ์ศรีตำนานร็อคมือขวาอีกอัลบั้มหนึ่ง

     อัลบั้มชุด 2 ที่มีการพลิกโฉมสู่ความเป็นป๊อปร็อค ทั้งภาคดนตรีที่มีความเข้มข้นและสไตล์คอสตูมที่มีความเป็นร็อคซึ่งแตกต่างจากอัลบั้มแรกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้อย่างดี มีเพลงฮิตที่โดดเด่นอยู่หลายเพลง โดยเฉพาะเพลง "ก็มันเป็นอย่างนั้น" เพลงป๊อปร็อคจังหวะสนุกที่ฮิตอย่างมาก เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "ฉลุย" ที่บิลลี่ได้แสดงนำ แถมยังมีส่วนร่วมในการเขียนคำร้องเพลงนี้อีกด้วย

     เพลงอื่นๆที่ได้รับความนิยม อาทิ หยดน้ำในทะเล, เบื่อก็ทนเอา, เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม, ฟ้าคงสะใจ, ช่างปะไร (ผู้หญิงคนเดียว), ฝังไว้ในผืนดิน และ อยากตะโกน ส่งให้ชื่อของบิลลี่แจ้งเกิดเป็นศิลปินล้านตลับขวัญใจขาร็อคทั่วประเทศไปอีกคน

     อัลบั้มแจ้งเกิดอัลบั้มแรก ที่เกิดจากวงดนตรีกลุ่มเพื่อนมัธยมในนาม "ไฮสกูล" ได้ทำเดโมเพลงไปเสนอให้ค่ายเพลงต่างๆ จนได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดแกรมมี่ ภายใต้ชื่อวงใหม่ "Nuvo" มาจากคำว่า 'Nouveau' ในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า ใหม่ โดยชุดแรก "เป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิดเลย" ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเต๋อ เรวัต ที่ออกไอเดียให้มีกิมมิคเล็กๆโดยใส่คำว่า "เลย" ลงไปที่ท้ายชื่อเพลงทุกๆเพลงในอัลบั้ม

     หลังจากที่นูโวไปออกเวทีโลกดนตรี อัลบั้มนี้ก็ดังกระหึ่มไปทั่วประเทศจนสร้างยอดขายทะลุล้านตลับ ด้วยเพลงฮิตอย่าง ไม่เป็นไรเลย, บอกอย่างงั้นอย่างงี้เลย, คางคกร่าเริงเลย, หลอกกันเล่นเลย และ ปล่อยไปตามลมเลย เรียกได้ว่านอกจากเพลงที่โด่งดังแล้ว ตัวตนของพวกเขาเองก็ล้วนได้รับความสนใจและมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นในสมัยนั้นเป็นอย่างมากเช่นกัน

     สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 ของตำนานจิ๊กโก๋อกหัก อัสนี-วสันต์ โชติกุล ที่เดินตามความสำเร็จจากอัลบั้ม "ฟักทอง" กลับมาครั้งนี้กับเพลง "สับปะรด" เพลงเปิดตัวจังหวะโจ๊ะๆ ที่โดนใจแฟนคลับจนต้องขยับเท้าตามจังหวะ ก่อนจะส่งเพลง "กุ้มใจ" เพลงที่ชวนให้สงสัย เหตุใด ล.ลิง ไม่มี จนเกิดเป็นเพลงฮิตชนิดที่ร้องติดปากกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง

     และตอกย้ำความสำเร็จให้กับอัลบั้มนี้ ด้วยเพลงฮิตอื่นๆ อาทิ "เธอปันใจ" เพลงสุดช้ำของจิ๊กโก๋อกหักที่มีเนื้อหาของความรักอันแสนเจ็บปวด โดนใจขาร็อคไปเต็มๆ "เกี่ยวก้อย" เพลงรักกระแสดี แต่งคำร้องโดย แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ทำให้อัลบั้มสับปะรดเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ดีเยี่ยมในความทรงจำของตำนานจิ๊กโก๋อกหักจนถึงวันนี้

     สตูดิโออัลบั้มหมายเลข 3 ของร็อคสตาร์ บิลลี่ โอแกน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจากอัลบั้มบิลลี่เข้ม กลับมาสานต่อความเข้มด้วยเพลง "ลาออก" หลังจากเปิดตัวเพียงชั่วข้ามคืน ก็โดนใจขาร็อคทั่วประเทศและด้วยเนื้อหาเพลงแนวประชดประชัน เพลงนี้จึงกลายเป็นเพลงประจำตัวของเหล่าชีวิตลูกจ้าง ไต่อันดับขึ้นสู่อันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงฮิตในเวลาอันรวดเร็ว และเพลงอื่นๆในอัลบั้มก็ยังช่วยทวีความเข้มให้อัลบั้มนี้โดนใจแฟนๆมากขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งบางเพลงบิลลี่ยังมีส่วนร่วมในการเขียนคำร้องเองด้วย อาทิ ผิดจนเกินอภัย, พูดด้วยไม่พูดด้วย, คำมักง่าย, หมื่นล้านเพลง, หน่อมแน้มไปหน่อย (คำร้องโดย แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร) และ จนแต่เจ๋ง

     และด้วยความนิยมถึงขีดสุด จึงเกิดเสียงเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ในชื่อ คอนเสิร์ตบิลลี่เข้มล่วงหน้า 1999 ณ MBK Hall ชั้น 7 มาบุญครองเซ็นเตอร์ เสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2533 กระแสตอบรับของ "บิลลี่ เข้มตลอด" ด้วยยอดขายแบบถล่มทลาย จึงกลายเป็นอัลบั้มมาสเตอร์พีซและส่งให้ บิลลี่ โอแกน คือ ซุปเปอร์สตาร์เพลงร็อคแถวหน้าอีกคนหนึ่งของเมืองไทย

     สตูดิโออัลบั้มแรกของนักแสดงสาวที่ผันตัวเองสู่เส้นทางสายดนตรี หลังจากมีโอกาสได้ร่วมงานกับเหล่าศิลปินซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทยในโปรเจ็คพิเศษ 6•2•12 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด โดยนัทมีส่วนร่วมในเพลง "อย่าทำ อย่าทำ" และ "จากเพื่อนคนหนึ่ง" ซึ่งก็เป็นสองเพลงฮิตที่ติดอันดับความนิยมในระดับต้นๆของอัลบั้มนี้

     และด้วยความแรงของโปรเจ็คสุดฮอตนี้เอง นับเป็นโอกาสอันดีของเธอ เพลง "อย่าทำ อย่าทำ Extended Version" ถูกส่งออกมาสานต่อความนิยมของ 6.2.12. โดยเป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเธอเอง ในสไตล์ R&B ที่กำลังแพร่หลายในหมู่คนฟัง ซึ่งมีเพลงที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ ขอโทษที่กวนใจเธอ และ ฟ้ากับตะวัน ถือเป็นอัลบั้มเปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จอยู่ในใจของแฟนเพลงไปอีกอัลบั้มหนึ่ง

     เปิดตัวอย่างฮือฮาด้วยมิวสิควีดีโอเพลง "ลองซิจ๊ะ" ที่ได้นางแบบมากความสามารถอย่าง ลูกเกด เมทินี, เฮเลน, ฟลอเรนซ์ และเมจิ ตามมาด้วยเพลง "กลับไม่ได้ไปไม่ถึง" ที่ได้ใหม่ เจริญปุระ และ สัญญา คุณากร ร่วมแสดงในมิวสิควีดีโอ ซึ่งก็ล้วนได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี

     อัลบั้มนี้ยังอัดแน่นไปด้วยเพลงฮิตอีกมากมาย อาทิ ผิดตรงไหน, ฉันมาทำอะไร, ทำไมต้องเธอ, หนามยอกอก, จำเธอขึ้นใจ ซึ่งก็ล้วนแต่ฟังง่ายฟังดี เหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ ...ตู้เพลงสามัญประจำบ้าน

     วงดนตรีหน้าใหม่แต่ฝีมือสุดเก๋า "Money Money" คือชื่อของอัลบั้มและยังเป็นชื่อของเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานและทันสมัย ด้วยคำร้องที่เสียดสีสังคมวัตถุนิยม ก็เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆเป็นอย่างมาก ตามมาด้วยเพลง "เจ้าช่อมาลี" เพลงป๊อปร็อคที่มีกลิ่นอายดนตรีไทยเสริมเข้ามาในเพลง ก็โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน เป็นเพลงฮิตของวัยรุ่น, นักท่องราตรีและสถานบันเทิงทั่วบ้านทั่วเมือง สมทบด้วยเพลงช้าสะกดคนฟังอีกระลอกอย่าง "ใจหายไปเลย" และ "ฉันไม่บ้าพอ" ที่ฮิตจนติดลมบน

     เท่านั้นยังไม่พอ เพลง "ไม่ต้องมีคำบรรยาย" เพลงรักความหมายดีก็กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดและยาวนานที่สุดในอัลบั้ม เรียกได้ว่าอัลบั้มนี้มีเพลงฮิตแทบทั้งอัลบั้มจนต้องส่ง อัลบั้มพิเศษ เจ้าช่อมาลี fever ออกมาสานต่อความสำเร็จและกวาดกระแสนิยมอย่างต่อเนื่อง

     เปิดตัวอย่างเร้าใจกับเพลงร็อค แอนด์ โรล ชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้มลำดับที่ 3 ของวงร็อคติดดิน ในนาม "โลโซ" ก็ทำเอาบรรดาแฟนเพลงขาโจ๋ฮือฮากันทั้งประเทศ ด้วยซาวน์ดนตรีที่มีความเข้มข้นและสไตล์เพลงที่เป็นสากลมากขึ้น

     เพลงเด่นในอัลบั้มนี้ "ใจสั่งมา" เพลงที่ปล่อยออกมากวาดความนิยมและได้รับกระแสตอบรับมากที่สุด โดยเฉพาะท่อนร้อง "ก็เลยมาร้องเพลงบอก แค่อยากให้เธอนั้นเข้าใจ ไอ้สิ่งที่ฉันทำลงไป ใจสั่งมา อย่าโกรธเลยนะคนดี ยกโทษให้ฉันนะแก้วตา คราวหลังจะไม่มา จะไม่โทร" ที่แฟนๆร้องติดปากจนกลายเป็นเพลงฮิตอันดับ1 บนชาร์ตของหลายคลื่นวิทยุนานหลายสัปดาห์ ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากเสียจนหลายคนเรียกชื่อเพลงนี้แทนชื่ออัลบั้ม และเพลง "คืนจันทร์" เพลงรักสุดโรแมนติกที่กินใจด้วยภาษาง่ายๆและการสื่ออารมณ์ได้เข้าถึงคนฟัง เป็นอีกเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จากความสำเร็จนี้เอง จึงได้เกิดกระแสเรียกร้องให้เกิดทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วประเทศอีกด้วย

     การกลับมาพร้อมเพลงเปิดตัว "ส้มหล่น" อัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อ "เต็มถัง" ของวงร็อคมือขวาที่นอกจากจะเรียกความนิยมจากชาวร็อคอย่างเกรียวกราวแล้ว กลับมาคราวนี้ก็สานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยได้นำเพลงร็อคที่มีดนตรีเข้มข้นเต็มอารมณ์ และเพลงร็อคช้าๆซึ้งๆโดนใจแฟนเพลงมาจนเต็มอัลบั้มเช่นเคย อาทิ เรามันก็คน, คนไม่มีสิทธิ์, ดับเครื่องชน, มันก็ยังงงงง, เติมน้ำมัน, รุนแรงเหลือเกิน, ถึงเพื่อนเรา และ เปิดฟ้า

     ซึ่งทุกบทเพลงล้วนได้รับความนิยมจนกลายเป็นเพลงฮิตทั้งอัลบั้ม และกลายเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่มียอดขายสูงที่สุดของไมโคร สร้างสถิติล้านตลับให้ตำนานร็อคมือขวาเป็นชุดที่ 3 ติดต่อกัน และทุกบทเพลงในอัลบั้มนี้ยังคงความนิยมของชาวร็อคมาจนถึงปัจจุบัน

 

     อัลบั้มของนูโวที่เป็นที่สุดทั้งในด้านยอดขายและความนิยมของเพลง คืออัลบั้ม "สุดสุดไปเลย...ซิ" สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ที่มีความน่าสนใจ ทั้งในด้าน concept ที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ชายหนุ่มที่มีความสดใส แข็งแรง และแนวเพลงที่หนักแน่น ทันสมัยและแฝงความสนุกสนาน

     ทั้งยังเต็มไปด้วยเพลงฮิตมากมาย อาทิ สุดสุดไปเลย, สัญญาปากเปล่า, หมดคำถาม, เก็บไว้ให้เธอ, ไม่เข้าใจ และ ลืมไปไม่รักกัน จนสามารถกวาดความนิยมและสร้างยอดขายอย่างสุดสุด...จนทะลุหนึ่งล้านตลับ...ไปเลย

     กลับมาสร้างกระแสให้วงการเพลงอีกครั้ง ด้วยงานเพลงดีๆ และลุคที่โดนใจแฟนๆ เป็นอีกอัลบั้มที่มีเพลงฮิตและเพลงที่น่าฟังทั้งอัลบั้ม อาทิ ซ่อมได้, บอกว่าอย่าน่ารัก, ก็เลิกกันแล้ว, ถ่านไฟเก่า, รักกันมั๊ย ฯลฯ จนเป็นอัลบั้มล้านตลับอีกอัลบั้มของซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งคนนี้

     ก่อนที่จะฉลองความสำเร็จต่อเนื่องด้วยอัลบั้ม ธงไชย เซอร์วิส พิเศษ ที่มีเพลงฮิตอย่าง ก้อนหินกับนาฬิกา และ พูดเล่นเล่น

      ผลงานเพลงลำดับที่ 4 ของสองพี่น้องเจ้าของตำนานจิ๊กโก๋อกหัก ภายใต้ชื่อ "ฟักทอง" เปิดตัวพร้อมเพลงโจ๊ะสุดมันตามสไตล์ "ยินดีไม่มีปัญหา" เป็นเพลงภาคต่อของ บังอรเอาแต่นอน และ บังเอิญติดดิน สานต่อความสำเร็จจากอัลบั้มก่อนหน้าจนฮิตไปทั่วประเทศ

     เพลงในอัลบั้มนี้ เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมาจนถึงในยุคปัจจุบัน อาทิ อยากจะลืม, วัวลืมตัว, ได้อย่างเสียอย่าง, ทองไม่รู้ร้อน, หัวใจสะออน (คำร้องโดย ยืนยง โอภากุล) โดยเฉพาะเพลง "กรุงเทพมหานคร" เพลงที่ทำให้คนไทยรู้จักและจดจำชื่อเต็มของเมืองหลวงของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี จนเป็นเพลงฮิตติดปากที่สุดอีกเพลงหนึ่ง

     และด้วยยอดขายที่พุ่งทะยานตามกระแสนิยมที่ล้นหลามนี้เอง อัลบั้ม 'ฟักทอง' จึงกลายเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของอัสนี-วสันต์ และยังเป็นอัลบั้มเพลงที่มียอดขายสูงที่สุดแห่งยุค 80's อีกด้วย

     สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 11 ของซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งเมืองไทย ธงไชย แมคอินไตย์ ภายใต้ชื่ออัลบั้ม "ธงไชย สไมล์คลับ" ได้ฤกษ์กลับมาเปิดสมาคมรอยยิ้ม มอบความสุขผ่านเสียงเพลงแก่แฟนคลับทั้งประเทศอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเมื่อเพลงแรก "กอดกัน" ถูกปล่อยออกมาทักทายแฟนๆ ต่างก็รับรู้ได้ถึงความสนุกและสีสันของอัลบั้มนี้ เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็ทยอยกันขึ้นชาร์ตเพลงฮิตแทบทุกเพลง ซึ่งเพลงเด่นๆของอัลบั้มนี้ถูกจัดให้อยู่ในระดับเพลงฮิตเหนือกาลเวลาที่ยังคงความนิยมและไพเราะมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือเพลง "เล่าสู่กันฟัง" เพลงแห่งความรักความห่วงใยแสนอบอุ่น, "คนไม่มีแฟน" เพลงฮิตประจำตัวของคนโสดทุกยุค และ "คู่แท้" เพลงรักประจำงานแต่งของคนมีคู่

     อัลบั้มนี้ได้กระแสตอบรับอย่างดีเช่นเคย และได้รับรางวัลจากหลายๆสื่อ การันตีด้วยยอดขายระดับซุปเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่ง จนกลายเป็นสุดยอดอัลบั้มแห่งปี พ.ศ. 2544

     ศิลปินหนุ่มผู้บุกเบิกดนตรีแนวเต้นรำ น้องชายของ โจ นูโว ที่เดินตามรอยกันมาจนกลายมาเป็นเจ้าพ่อเพลงแดนซ์ของเมืองไทยในที่สุด

     เพียงแค่เปิดตัวอัลบั้มแรกก็แจ้งเกิดอย่างสวยงาม เจ เจตริน โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน พร้อมกับเพลงฮิตติดหู และท่าเต้นที่สะดุดตา จนสามารถสร้างยอดขายทะลุล้านตลับ อาทิ ฝากเลี้ยง, กองไว้, หยุดเลย, เจ็บไปเจ็บมา, ไดโนเสาร์ และ บ๊ายบาย

     "มาแล้วยังดีกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา.." เมื่อเพลง "เหลวไหล" ที่ส่งมาทักทายแฟนๆได้รับกระแสนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยคำร้องและท่าเต้น อีกทั้งแฟชั่นที่บรรดาวัยรุ่นแต่งตามกันทั้งเมือง ส่งให้อัลบั้มนี้ขึ้นแท่นอัลบั้มขายดีที่สุด ณ เวลานั้น เพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้ อาทิ เฟอะฟะ, ไม่รัก...ก็บ้า, เส้นตรง ล้วนได้รับความนิยมอย่างสูง จนส่งให้กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายถล่มทลายที่สุดของมอสอีกด้วย

     จากกระแสความนิยมของมอสจึงเกิดเสียงเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่สนองแฟนๆทันที ซึ่งก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ถึง 2 ครั้ง ติดต่อกัน คือ คอนเสิร์ต Mr.Mos Sensurround และ คอนเสิร์ต มิสเตอร์มอส อีกสักที กับ UHT ก็ดีนะเพื่อน เรียกได้ว่าเป็นการแจ้งเกิดซุปเปอร์สตาร์ทีนไอดอลแถวหน้าของเมืองไทยไปอีกคน

     และในอันดับที่ 14 นี้ คืออัลบั้มแรกที่มียอดขายถึง 1,500,000 ชุด

     อัลบั้มชุดที่ 4 ที่กลับมาพร้อมกับโปรดิวเซอร์ล้านตลับอย่าง "ธนา ลวสุต" ที่ทำให้ ทาทา ยัง และ โบ สุนิตา ขึ้นแท่นศิลปินหญิงล้านตลับมาแล้ว เปิดตัวอย่างฮือฮาด้วยเพลง "อย่ามองตรงนั้น" ด้วยลุคส์ใหม่ที่ยังคงความสวยเซ็กซี่ และแฟชั่นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Golden Eye : ตาสีทองมองที่ใจ"

     ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "ฝากความยินดี" และ "พูดอีกที" ที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดเพลงฮิตแห่งปีเลยทีเดียว จนต้องผลิตเทปและซีดีด้วยกำลังผลิตสูงสุดให้ทันกับกระแสความนิยมที่มีอย่างล้นหลามจนถือเป็นสุดยอดอัลบั้มแห่งปี พ.ศ. 2540 ที่ทำให้คริสติน่า ครองสถิติล้านตลับต่อเนื่องเป็นอัลบั้มที่ 4 และฉลองความสำเร็จนี้ด้วยอัลบั้มพิเศษ Christina remix ที่ตามออกมาเพียง 3 เดือน

     อัลบั้มมาสเตอร์พีซของคิงออฟแดนซ์ ที่กลับมาสร้างความฮือฮาด้วยการเป็นผู้นำกระแสเพลงแร๊พจนฮิตในบ้านเรา ด้วยเพลงที่มีจังหวะสนุกและมีสีสัน เพลงช้าที่กินใจเข้าถึงอารมณ์ ลุคที่ดูเป็นสปอร์ตแมน พร้อมขบวนแดนเซอร์และรถเครื่องเสียงโมบายเคลื่อนที่แจกความสนุกแบบจัดเต็ม เป็นอีกครั้งที่เจนำอัลบั้มนี้ กวาดยอดขายเทปทะลุเกินหนึ่งล้านตลับไปตามคาด

     "ยุ่งน่า" เพลงแร๊พเปิดตัว ถือเป็นเพลงแรกๆที่สร้างกระแสเพลงแร๊พ ก่อนจะฮิตระบาดในหมู่วัยรุ่นยุคนั้น ก่อนจะตามมาด้วยเพลงฮิต อาทิ ก็ใครมันจะไปรู้ละ, อดทนไว้, เพิ่งเข้าใจ, ประมาณนี้หรือเปล่า และ คาใจ ที่ก็ต่างทยอยกันขึ้นชาร์ตเพลงฮิต จนถือได้ว่าเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของปี 2536

      นักร้องสาวหน้าใหม่ ผู้บุกเบิกแนวเพลงป๊อปแดนซ์คนแรกของเมืองไทย ที่มาพร้อมกับซาวน์ดนตรีแปลกใหม่และน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทันสมัย โดยได้ "โอม ชาตรี คงสุวรรณ" เป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งก็เป็นงานแรกของเขาเช่นกัน คริสติน่าเปิดตัวอย่างโดดเด่นจากศิลปินคนอื่นๆในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีเพลงดังอย่าง พลิกล็อค, นินจา, เปล่าหรอกนะ, ประวัติศาสตร์, หัวใจขอมา, และ อย่าไปเสียน้ำตา

     ด้วยความลงตัวทั้งดนตรีและแฟชั่น จนทำให้อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดขายมากเกินกว่า 1.5 ล้านตลับ สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการเพลงเป็น "นักร้องหญิงคนแรกของประเทศไทยที่ทำยอดขายเกินล้านตลับ" และเส้นทางบนถนนสายดนตรี ก็นำเธอไปสู่ฉายา "Queen of Dance" ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของนักร้องหญิง สมดังคำของผู้สร้างอย่าง "เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์" ที่เคยกล่าวไว้ว่าเธอจะต้องโด่งดังเป็นต้นแบบของเพลงแนวแดนซ์ในเมืองไทย

     และอันดับที่ 11 นี้ คืออัลบั้มที่เปิดตัวด้วยยอดขายสูงที่สุดของแกรมมี่**

     วงร็อคหน้าใหม่ วงแรกแห่งค่ายมอร์มิวสิค เปิดตัวด้วยสไตล์การร้องและภาษาเพลงที่เข้าถึงง่าย ทำให้โลโซเป็นวงร็อคที่ประสบความสำเร็จโดนใจขาร็อคทั่วประเทศ แค่เพียงเปิดตัวด้วยเพลง "ไม่ต้องห่วงฉัน" เพลงที่มีภาษาง่ายๆ ดนตรีน้อยชิ้นก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจแฟนเพลงและกลายเป็นเพลงฮิตถล่มทลายในเวลาอันสั้น จนเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ก่อนจะปล่อยเพลงอื่นๆในอัลบั้ม ออกมาโกยความนิยม อาทิ อยากบอกว่าเสียใจ, เราละนาย และ ฉันหรือเธอ(ที่เปลี่ยนไป) จนต้องมีการเปลี่ยนปกเพิ่มเพลง "ไม่ตายหรอกเธอ" เข้ามา

     • สุดยอดผู้สร้างสรรเพลงฮิต
หลายต่อหลายเพลงที่ได้รับความนิยมในอัลบั้ม ส่วนใหญ่ มาจากผลงานการสร้างสรรของ เสก (ร้องนำ)

     • ต้นแบบของวงดนตรีวัยรุ่น
จากความสำเร็จของโลโซ จึงกลายเป็นวงดนตรีต้นแบบของแฟนๆ ในการสร้างสรรผลงาน ทั้งแนวเพลงและสไตล์การร้อง ซึ่งมีอิทธิพลอย่างสูงในยุค 90's

     • ขวัญใจแฟนเพลงทุกชนชั้น
เพียงแค่อัลบั้มแรกพวกเขาก็สามารถสร้างยอดขายรวมเบ็ดเสร็จทั้ง 2 ปก ร่วม 2,000,000 ตลับ* ด้วยเพลงคุณภาพที่เข้าถึงคนฟังทุกกลุ่ม จนร้องติดปากทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งถือเป็นวงดนตรีระดับตำนานที่สร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งให้กับวงการเพลงไทย

     และในอันดับที่ 10 นี้ คืออัลบั้มแรกที่มียอดขายรวมทั้ง 2 ปก ถึง 2,000,000 ชุด

     กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้งกับคำถาม "ใครคือบุษบา?" เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ที่สดใสและลงตัวกับนิโคลที่สุด สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของเธอ ในชื่อ "บุษบาหน้าเป็น" ที่ส่งเธอให้ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

     • ที่สุดของความนิยม
เพียงเปิดตัว กระแสความนิยมก็ถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศ ทั้งนิโคลยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยิ่งสร้างกระแสบุษบาฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองแบบยั้งไม่อยู่ และยังแรงต่อเนื่องไปกับเพลงฮิตต่างๆที่ทยอยกันออกมา จนต้องออกอัลบั้ม acoustic ตามมาเพื่อฉลองความสำเร็จ

     • อัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี
อัลบั้มนี้ยังได้นักแต่งเพลงฝีมือดีมากมายมาช่วยสรรสร้างเพลงดีๆ ที่ถือได้ว่าเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของปี พ.ศ. 2542 อาทิ ดอกไม้ที่ทำตก, ไม่ใช่ ไม่ใช่, วันหนึ่ง...ฉันจะทำเพื่อเธอ และ "ทำไมเป็นคนแบบนี้" ดี้ นิติพงษ์เขียนให้นิโคล หลังจากที่อกหักกับความรักครั้งก่อน รวมถึง "บุษบา" เพลงที่ดี้ นิติพงษ์เขียนจากชื่อจริงภาษาไทยของนิโคลเอง โดยเขาและนิ่ม สีฟ้า ยังได้ร้องคอรัสให้กับนิโคลอีกด้วย ตบท้ายด้วย "เปรี้ยวใจ" เพลงที่ปลุกกระแสแนวเพลง Acapella ด้วยภาษาเพลงที่น่ารัก ชวนฟัง จนเป็นเพลงรักที่ฮิตโดนใจคนทั้งประเทศ

     • ที่สุดของสถิติ ปิดตำนานล้านตลับศิลปินหญิงแกรมมี่
หลังจากที่สร้างยอดขายล้านตลับในอัลบั้มแรกไปแล้ว มาอัลบั้มนี้กลับทำลายสถิติเดิมเป็นทวีคูณ ทะยานเกิน 2 ล้านตลับแบบเหนือความคาดหมาย ทั้งยังเป็นอัลบั้มล้านตลับสุดท้ายของศิลปินหญิงแกรมมี่อีกด้วย

     ทันทีที่ "รักแล้วรักเลย" เพลงประกอบโฆษณาบริษัทรถยนต์ ถูกปล่อยออกมา ก็เกิดเป็นกระแสติดตามและถามหาของบรรดาแฟนเพลงอย่างมากก่อนจะปล่อยเพลง "เสียใจได้ยินไหม" MV สุดยิ่งใหญ่ อลังการ ลึกลับ ชวนให้เข้าไปค้นหา ที่ทุ่มทุนถ่ายทำ ณ ประเทศอียิปต์ เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเพียงชั่วข้ามคืนหลังจากที่ปล่อยออกมา

     • สุดขอบความไพเราะ
หลายบทเพลงในอัลบั้ม มีความไพเราะลงตัวจากปลายปากกานักเขียนเพลงชื่อดัง อาทิ นิ่ม สีฟ้า, ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค เพลงลำดับต่อมา "เธอรู้หรือเปล่า", "หนักเกินไปแล้ว", "ต่อไปนี้ไม่มีใคร" เพลงเศร้าสุดช้ำที่ใหม่ถ่ายทอดได้อย่างสุดอารมณ์ นอกจากนี้ เพลงจังหวะสนุกๆก็จัดเต็มสุดพลัง อาทิ ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะเพลง "สุดฤทธิ์สุดเดช" (เขียนคำร้องโดย แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร) ที่เป็นเพลงฮิตแห่งปีที่โดนใจแฟนๆมากที่สุด จนกลายเป็นเพลงจำของ ใหม่ เจริญปุระ มาจนถึงปัจจุบัน

     • สุดยอดความนิยม
หลังจากอัลบั้ม ความลับสุดขอบฟ้า สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ของ ใหม่ เจริญปุระ ปรากฏสู่สายตาแฟนๆไม่นาน ก็เกิดเสียงเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ จึงได้เกิดคอนเสิร์ตใหญ่ตามคำเรียกร้อง ในชื่อ "คอนเสิร์ต ใหม่...สุดขอบ" ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่หลายๆคนยังประทับใจและจากกระแสเรียกร้องที่มีอย่างมากมายและต่อเนื่อง จึงต้องจัดคอนเสิร์ตเพื่อขอบคุณกำลังใจและความรักของแฟนๆที่มีต่อเธออีกครั้ง กับ "คอนเสิร์ต ใหม่ encore for thank you"

     • แฟชั่นสุดขอบ
นอกจากบทเพลงจะได้รับความนิยมทั้งอัลบั้มแล้ว คอสตูมของใหม่ในชุดนี้ ก็ยังเป็นที่สนใจของแฟนๆอีกด้วย แฟชั่นเครื่องประดับ "เทอร์ควอยซ์" หินสีฟ้า เครื่องลางแห่งโชค ถูกนำมาเป็นเครื่องประดับของบรรดาสาวๆทั่วบ้านทั่วเมือง จนต้องมีการผลิตผ้าเช็ดหน้าสีเทอร์ควอยซ์ สกรีนลายผีเสื้อ แจกให้กับแฟนๆที่มาชมคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของเธออีกด้วย

     • สุดยอดอัลบั้มแห่งปี
"ความลับสุดขอบฟ้า" เป็นอัลบั้มที่โดดเด่นและทรงพลัง มีความลงตัวที่สุด ถือเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี 2535 ที่ทรงอิทธิพลต่อวงการเพลงและแฟนเพลงทั้งประเทศ ด้วยการสร้างสถิติยอดขายถึงล้านตลับเป็นอัลบั้มแรกของใหม่ เจริญปุระ และทะยานไปจนจบที่ 2,500,000 ชุดแบบไร้คู่แข่ง ถือเป็นศิลปินหญิงคนแรกของแกรมมี่ที่ทำยอดขายได้ในระดับ 2 ล้านตลับ!!!

     เรียกได้ว่า ปี 2535 เป็นปีของนักร้องสาว แหบเสน่ห์ที่พิสูจน์ตัวตนด้วยผลงานมาสเตอร์พีซ ที่ส่งให้ชื่อของ "ใหม่ เจริญปุระ" คือ ซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าอีกคนของวงการเพลงไทย

     ผลงานเพลงชุดแรกของเด็กสาววัย 14 ผู้ชนะการประกวดร้องเพลงที่ได้รับการทาบทามจาก เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ สู่ถนนสายดนตรีภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์มือทอง ธนา ลวสุต เปิดตัวด้วยเพลงสุดแก่น "โอ๊ะ โอ๊ย" ก็ทำให้บรรดาวัยรุ่นวัยซนฮือฮาอย่างมาก ก่อนจะส่งเพลงช้าๆซึ้งๆอย่าง "พรุ่งนี้ไม่สาย" ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากเช่นกัน เพลงอื่นๆในอัลบั้มเรียงแถวกันไต่ชาร์ตเพลงฮิต อาทิ "รบกวนมารักกัน" เพลงสุดฮิตที่มาพร้อมท่าเต้นสุดเก๋ ที่ใครๆก็ร้องและเต้นตาม, ขอได้ไหม, ไม่รักตัวเอง , สอนไม่จำทำตลอด และ ไม่มีเบื่อ

     • ปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์
ด้วยวัยเพียง 14ปี เด็กสาวผู้มีพรสวรรค์ในการร้องเพลง เจ้าของเพลงฮิตโดนใจแฟนๆทั้งประเทศ สู่ยอดขายระดับซุปเปอร์สตาร์ที่สูงเกินล้านตลับ จึงเป็นที่มาของฉายา "สาวน้อยมหัศจรรย์" ของวงการเพลงและขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ

     • ปรากฏการณ์ผู้นำแฟชั่น
ไม่เพียงแต่บทเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งอัลบั้มแล้ว คอสตูมของทาทา ยังมีอิทธิพลต่อแฟชั่นของวัยรุ่นในขณะนั้นอีกด้วย เสื้อยืดพิมพ์ลายการ์ตูน กางเกงยีนส์ขาใหญ่ๆหลวมๆ รองเท้าผ้าใบสลับสี เป็นที่นิยมถึงขีดสุดที่วัยรุ่นต้องแต่งตาม

     • ปรากฏการณ์ยอดขาย
หลังจากอัลบั้ม อมิตา ทาทา ย° มียอดขายทะลุหนึ่งล้านตลับ ซิงเกิ้ลใหม่ "ฉันรักเธอ" ที่เขียนขึ้นมาเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆที่รักและสนับสนุนเธอ พร้อมอัลบั้ม Tata 1,000,000 copies celebration ซึ่งความนิยมอย่างสูงของเพลงนี้ ยังทำให้อัลบั้มนี้ทะยานสู่ยอดขายล้านตลับในปีถัดไปอีกครั้ง นับเป็นสถิติใหม่ที่ต้องจารึกไว้ของวงการเพลงไทย

     • ปรากฏการณ์คอนเสิร์ตสุดฮอต
และด้วยความนิยมอย่างถล่มทลาย จึงเกิดเสียงเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ ภายใต้ชื่อ "นานา ทาทา อิน คอนเสิร์ต" ของสาวน้อยมหัศจรรย์ ก่อนจะมีกระแสเรียกร้องเพิ่มเติม จึงเกิด "คอนเสิร์ตทาทา สเปเชียล ตอน "I Love You" อีกครั้ง นับเป็นนักร้องที่มีอายุน้อยที่สุดที่เป็นเจ้าของคอนเสิร์ตใหญ่ระดับนี้

     หลังจากประสบความสำเร็จกับเพลงละครพริกขี้หนูกับหมูแฮม ที่โบ สุนิตาได้โชว์พลังเสียงใสๆไว้ในเพลง "อยากให้เธออยู่ตรงนี้" ก่อนจะเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดแรกในชื่อ "BEAU" ที่กลายมาเป็น "อัลบั้มที่ล้านตลับเร็วที่สุด"

     • จุดเริ่มต้นบนถนนสายดนตรี
โบ สุนิตา เดินเข้ามาส่งเทปคลาสเซ็ทเดโมบันทึกเสียงร้องที่แกรมมี่ด้วยตัวเอง และได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดเมื่อปี 2536 ด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยโบเริ่มต้นทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินหลายคน ทั้งร้องคอรัส และร้องไกด์ ให้กับนักร้องชื่อดังมากมาย ก่อนจะมีซิงเกิลแรกเป็นของตัวเอง นั่นคือเพลง "ยังรักกันอยู่ใช่ไหม" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครลัดฟ้ามาหารัก

     • สุดยอดแห่งความนิยม
งานดนตรีป๊อบร็อค หนักแน่น และแฟชั่นที่สะดุดตาในชุดกะลาสีเรือ เพียงแค่เพลงแรกที่เปิดตัว "ฉันรู้" ก็ทำให้โบโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน และตามมาด้วยด้วยเพลงที่ฮิตอีกมากมาย อาทิ ไม่อยากรักคน (ที่ไม่อยากรักเรา), เธอไม่เคยถาม, หลับสบายไหม, ไม่มีอีกแล้ว, อยู่คนเดียว, พรุ่งนี้ (จะไปกับเธอ), อธิษฐาน ด้วยเสียงร้องที่ไพเราะและพลังเสียงที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ชื่อของโบโด่งดังไปทั่วประเทศ กลายเป็นอัลบั้มอันดับหนึ่งแห่งปี พ.ศ. 2539

     • ปรากฏการณ์ล้านตลับเร็วที่สุด
ภายใต้การดูแลของปอนด์ ธนา ลวสุต ซึ่งทุกเพลงในอัลบั้มนี้ล้วนเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น จึงทำให้มียอดขายทะลุหนึ่งล้านตลับภายในเวลาเพียง 28 วันเท่านั้น นับเป็นอัลบั้มที่ล้านตลับเร็วที่สุด

     • ล้านตลับถึง 2 อัลบั้มในปีเดียวกัน
ภายในปีเดียวกัน โบ สุนิตาได้ออกอัลบั้มพิเศษฉลองล้านตลับ มีการเพิ่มเพลงใหม่ "ขอเป็นคนของเธอ" ซึ่งอัลบั้มนี้ก็มียอดขายถึงล้านตลับภายในปีเดียวกันนั้นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ศิลปินสามารถทำอัลบั้มถึงล้านตลับได้ถึง 2 อัลบั้มภายในหนึ่งปี จนสื่อมวลชนยกฉายาให้เธอเป็น "เจ้าแม่ล้านตลับ" ในปีนั้น ก่อนที่โบจะออกอัลบั้มฉลองความสำเร็จเป็นอัลบั้มที่ 3 ในชื่อว่า "beau light" โดยมีเพลงที่แต่งใหม่คือ "พรุ่งนี้เธอจะรักฉันไหม"

     ผลงานลำดับที่ 2 ของวงร็อคติดดิน มากฝีมือที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากอัลบั้มที่แล้ว กลับมาครั้งนี้เพื่อสานต่อความยิ่งใหญ่ด้วยงานเพลงและดนตรีที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เปิดตัวด้วยเพลง "อยากเห็นหน้าคุณ" ดนตรีร็อคแอนด์โรลที่ดุดัน ได้กระแสตอบรับจากแฟนๆทั่วประเทศอย่างดี

     "อะไรก็ยอม" เพลงรักอารมณ์บาดใจ ทั้งคำร้องและทำนอง ถูกปล่อยออกมากวาดคะแนนนิยมเช่นเคย จนแฟนๆชาวร็อคยกให้เป็นเพลงช้าที่ฮิตที่สุดแห่งปี
"ซมซาน" เพลงร็อคจังหวะเท่ๆที่มีความลงตัว เพลงนี้ทำให้วงโลโซทะยานสู่จุดสูงสุดของความนิยม เพราะแค่เพียงปล่อยออกมาก็กวาดกระแสนิยมเพียงชั่วข้ามคืน จนฮิตติดชาร์ตในหลายคลื่นวิทยุ เป็นเพลงฮิตติดปากชาวร็อคไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน อาทิ เลิกแล้วต่อกัน,ด้วยตัวเราเอง,รักเมืองไทย และ เพลง "แม่" เพลงบอกรักแสนอบอุ่น แทนความคิดถึงและกำลังใจจากแม่ เรียกน้ำตาและความนิยมจากแฟนๆได้เป็นอย่างดีเช่นเคย

     • สุดยอดของความนิยม
เกือบทุกเพลงในอัลบั้ม Entertainment ต่างก็ได้กระแสตอบรับอย่างดี จนกลายเป็นเพลงฮิตที่อัดแน่นในอัลบั้ม เป็นผลงานเพลงร็อคที่แรงที่สุดแห่งปี ที่ไม่มีใครต้านทานกระแสความนิยมของโลโซได้ เรียกได้ว่า นี่คือผลงานระดับ "มาสเตอร์พีซ" ของโลโซ ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี 2541 อีกด้วย

     • วงร็อคติดดินสู่ราชาเพลงร็อค
และด้วยความนิยมที่สูงสุดขีดของเพลงในอัลบั้มนี้ ส่งให้ยอดจำหน่ายผลงานพุ่งทะยานเกิน 2 ล้านตลับ! นับเป็นยอดขายที่ "สูงที่สุด" ของศิลปินกลุ่มแกรมมี่ ที่สร้างความสำเร็จให้โลโซก้าวขึ้นสู่วงร็อคแถวหน้าของวงการ จนสื่อหลายสำนัก รวมทั้งแฟนเพลงทั้งประเทศ ต่างยกให้โลโซ เป็น "ราชาเพลงร็อคแอนด์โรล" นับตั้งแต่นั้น

     • กระแส "ซมซาน" เพลงฮิตประจำทุกเทศกาล
เกิดกระแสเพลงฮิตถล่มทลาย เรียกได้ว่า เกิดกระแสเพลงซมซาน ที่ฮิตไปทั่วประเทศ ซึ่งกลายเป็นเพลงประจำทุกเทศกาลของคนไทย ซึ่งยังคงความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

     สร้างความฮือฮาทุกครั้งที่มีผลงานใหม่ ตามสไตล์ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งก็สมการรอคอยของแฟนๆทั้งประเทศ กับผลงานลำดับที่ 5 ภายใต้ชื่อ "บูมเมอแรง" ที่เปิดตัวด้วย MV สุดสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมภาพจำของเท่ๆ ของไม้แขวนเสื้อที่ใช้แทนบูมเมอแรงจนกลายเป็น talk of the town อยู่พักใหญ่ คำร้อง "ฉันเป็นดั่งบูมเมอแรง ขว้างไปยิ่งแรง ยิ่งกลับมาเร็ว ฉันเป็นดั่งบูมเมอแรง ขว้างไปทุกแห่ง ก็มาที่เดิม..." เป็นท่อนฮุคที่ร้องกันทั่วบ้านทั่วเมือง

     • สุดยอดความนิยมของเพลงทั้งอัลบั้ม
อัลบั้ม "บูมเมอแรง" เรียกได้ว่ามีความไพเราะและได้รับความนิยมทั้งอัลบั้ม อาทิ "คู่กัด"เพลงจังหวะสามช่าที่ฮิตในระดับประเทศเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์ทั้งเพลงและ MV ที่สร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว"เงียบๆ คนเดียว"เพลงอกหักที่เข้าถึงอารมณ์เศร้าได้เป็นอย่างดี เป็นเพลงที่ยังความอมตะที่ถูกนำมาร้อง cover หลายต่อหลายครั้งในปัจจุบัน เพลงฮิตอื่นๆในอัลบั้ม ได้แก่ "คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น","เงาที่หายไป","บ้านของเรา","พักตรงนี้","หมอกหรือควัน","อย่าหลบตากัน","ภารตี" และ "ต่อเวลา"

     • สุดยอดคอนเสิร์ต
จากกระแสเรียกร้องจากแฟนเพลงทั้งประเทศ จึงได้เกิด คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม "มนุษย์บูมเมอแรง" ซึ่งเปิดทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วประเทศ และด้วยความแรงของกระแส จึงได้เกิด แบบ เบิร์ด เบิร์ด โชว์ ตอน มันอยู่ในมือมนุษย์บูมเมอแรง ซึ่งนับได้ว่าเป็นโชว์ที่ดีที่สุด สนุกและประทับใจที่สุดอีกโชว์หนึ่งของเบิร์ด และเกิดเป็นกระแสที่ต้องพูดถึงอีกครั้ง อาทิ ภาษามือที่ใช้ประกอบเพลง "หมอกหรือควัน", ฉากการร้องและเต้นกลางสายฝนบนเวที เป็นต้น

     • สุดยอดอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี พ.ศ. 2533
จากกระแสละครฮิต และเพลงดัง ที่เบิร์ดถ่ายทอดได้อย่างสุดยอดและลงตัว จึงนับเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่สุดแห่งยุค และเป็นเจ้าของสถิติใหม่ให้กับวงการเพลง โดยอัลบั้มบูมเมอแรงสามารถทำยอดขายได้สูงเกิน 2 ล้านตลับเป็นคนแรกของแกรมมี่ ทำให้เบิร์ดถูกยกให้เป็นซุปเปอร์สตาร์และเอนเตอร์เทนเนอร์อันดับหนึ่งของประเทศอีกด้วย

     สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ของคริสติน่า อากีล่าร์ นักร้องหญิงล้านตลับคนแรกของไทย "Red Beat รหัสร้อน" งานเพลงระดับมาสเตอร์พีซ และยังเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี พ.ศ. 2537 เป็นการกลับมาอย่างร้อนแรงและยิ่งใหญ่สานต่อความสำเร็จจากผลงานชุดที่แล้ว ด้วยความพิถีพิถันของการทำดนตรี โดยโปรดิวเซอร์มือทอง ชาตรี คงสุวรรณ ภายใต้การควบคุมของ เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกๆที่มีการบันทึกเสียงในระบบ 60 แทร็ก ซาวน์ดนตรีในอัลบั้มนี้จึงมีรายละเอียดและยังคงความทันสมัยมาจนถึงทุกวันนี้

     • ร้อนแรงทะลุจุดเดือด
"ไม่ยากหรอก" เพลงเปิดตัวที่ร้อนแรงถึงขีดสุด สร้างกระแสคริสติน่าฟีเวอร์ทันทีที่เปิดตัว หลังจากเพลงต่างประเทศเข้ามายึดครองความนิยมอยู่พักใหญ่ ตามมาด้วยเพลงฮิตในอัลบั้มที่เรียงแถวกันมาครองอันดับบนชาร์ตเพลงฮิต "ใครจะไป...ยกมือขึ้น?!" แค่เพียงอินโทรของเพลง "ไปด้วยกันนะ" ดังขึ้น ไม่ใครก็ใครก็ต้องอดใจไม่ไหวที่จะลุกขึ้นขยับแข้งขาไปตามจังหวะ "นาทีที่ยิ่งใหญ่" เพลงสร้างกำลังใจที่ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็ยังคงความคลาสสิกไพเราะอยู่เสมอ รวมถึงเพลงอื่นๆในอัลบั้ม อาทิ ไม่มีใครขอร้อง, อยากให้รู้เหลือเกิน...ว่าฉันเสียใจ, รักเธอที่สุด, เลิกเหอะ ซึ่งทั้งตัวเพลงและแฟชั่น ล้วนเป็นที่นิยมและทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุค

     • ถอดรหัสแฟชั่นร้อน
ทุกครั้งกับการกลับมาของคริสติน่า นอกจากเรื่องงานเพลงแล้ว แฟชั่นและคอสตูมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกจับตาจากบรรดาสื่อมวลชนและแฟนเพลงทั่วประเทศ และก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ผมทรง "สับปะรด" ผสานคอสตูมแนวสปอร์ตี้ที่แฝงความเซ็กซี่ ชุดแซก รองเท้าบูท เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นจนแฟนๆต้องแต่งตาม

     • คอนเสิร์ตสุดฮอต
หลังจากอัลบั้มถูกวางแผงไม่นาน ก็เกิดกระแสเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ทันที ด้วยความร้อนแรงนี้เองจึงเกิดเป็นคอนเสิร์ตแรกที่มีคอนเซ็ปต์ทั้งร้องทั้งเต้นแบบไม่หยุดพัก ในชื่อ "คอนเสิร์ต คริสติน่า Nonstop" และด้วยความแรงของกระแสตอบรับเกินต้านทาน จึงมีเสียงเรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตอีกครั้ง จึงเกิดคอนเสิร์ต "Dance Party กับ Christina ตอน ไปด้วยกัน...ไม่ยากหรอก" เพื่อเป็นการขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนๆของเธอ นอกจากนี้ยังมีทัวร์คอนเสิร์ตไปพบปะแฟนเพลงทั่วประเทศอีกด้วย

     • ควีน ออฟ แดนซ์
ตลอดระยะเวลาบนเส้นทางการเป็นซุปเปอร์สตาร์ของคริสติน่า เธอทุ่มเททำงานอย่างตั้งใจ มีระเบียบวินัยสูง เป็นต้นแบบของนักร้องรุ่นใหม่ มีเพลงฮิตของตัวเองมากมาย จนกลายเป็นไอคอนเพลงแดนซ์และไอดอลของศิลปินรุ่นใหม่หลายๆคน รวมทั้งแฟนเพลงของเธอเองอีกด้วย จึงเป็นที่มาของสมญานามที่สื่อมวลชนต่างๆยกให้เธอเป็น "ควีน ออฟ แดนซ์เมืองไทย" จนถึงทุกวันนี้

     • ที่สุดของนักร้องหญิง
ไม่เพียงแต่เป็นนักร้องหญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำยอดขายสูงที่สุดถึง 3 ล้านตลับ ในชุด "Red Beat รหัสร้อน" แต่ยังเป็นศิลปินหญิงที่มียอดขายรวมทุกชุดสูงสุดอีกด้วย ส่งให้คริสติน่าก้าวขึ้นเป็น "ราชินีล้านตลับ" อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งยอดขายและจำนวนอัลบั้มล้านตลับที่ต่อเนื่องกันถึง 4 อัลบั้ม

     และในอันดับที่ 3 นี้ คืออัลบั้มแรกที่มียอดขายสูงเกิน 3,000,000 ชุด

     ด้วยผลงานชุดก่อนได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมถล่มทลายเอาไว้ในวงการเพลง กลับมาตอกย้ำความสำเร็จด้วยผลงานเพลงลำดับที่ 6 ในชื่อ "พริกขี้หนู" ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์เพลงที่มีสีสันจัดจ้าน ชวนให้ลิ้มลอง เปิดตัวด้วยเพลง "พริกขี้หนู" ที่สนุกสนานตามชื่ออัลบั้ม ก็เรียกเสียงฮือฮาและเกิดกระแสพริกขี้หนูขึ้นทันที โดยเหล่าแฟนๆเริ่มถามหาอัลบั้มตั้งแต่ยังไม่ออกวางแผง
"อย่าต่อรองหัวใจ" เพลงเศร้าสุดซึ้ง ที่มาพร้อมสีสันแปลกใหม่ โดยการพูดในเพลงและมีท่อนร้องเพียงแค่ท่อนฮุค ก็ฮิตโดนใจแฟนเพลงอีกเช่นเคย
"ขออุ้มหน่อย" เพลงที่มาพร้อม MV ที่สดใสน่ารัก ประทับใจคนทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเพลงเด็ดๆที่ล้วนแต่ได้รับความนิยม อาทิ บอลลูน, ไม่อาจหยั่งรู้ และ ฝากไว้

     • กระแสแฟชั่นสุดแสบ
ด้วยกระแสพริกขี้หนูฟีเวอร์ คอสตูมที่ใช้ในอัลบั้มนี้จึงเป็นที่นิยมเช่นกัน อีกทั้งกระแส "จาไมก้า"จากโฆษณาฟิล์มสี ที่เบิร์ดเป็นพรีเซนเตอร์ ทำให้เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีการผลิตเสื้อผ้าลายพริกขี้หนูกันเลยทีเดียว

     • คอนเสิร์ตสุดอลังการ
และจากกระแสนิยมของอัลบั้มนี้ จึงเกิดเสียงเรียกร้องของแฟนๆให้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม "พริกขี้หนู" จึงอุบัติขึ้นเพื่อตอบรับความต้องการที่มากมายนี้ทันที และไม่เพียงเท่านั้น จากความนิยมที่ถาโถมอย่างมากมาย แบบ เบิร์ด เบิร์ด โชว์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็ได้ถูกเนรมิตขึ้นมาภายใต้ชื่อตอน "ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด" เป็นโชว์ที่มีครบทุกรส สุข สนุก อลังการงานสร้างทั้งแสง สี เสียง และทิ้งท้ายด้วยความประทับใจจนบางคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซึ่งเป็นที่พูดถึงอย่างมากอีกเช่นกัน

     • สถิติมีไว้ทำลาย
ด้วยสถิตินักร้องเจ้าของยอดขาย 2ล้านตลับคนแรก ในชุด "บูมเมอแรง" ความแรงของกระแสที่เกินต้านทานแบบทวีคูณของอัลบั้ม "พริกขี้หนู" ทำให้เบิร์ดสร้างสถิติใหม่ด้วย ยอดขายเกิน 3ล้านตลับคนแรกและเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุดในยุค 90's สมศักดิ์ศรีซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย

แฟนจ๋า...ฉันมาแล้วจ้ะ อยู่นี่แล้วหน่ะ เขยิบมาใกล้ๆ
แฟนจ๋า...เราเป็นเนื้อคู่ รักจริงไม่อู้ โอ้แม่ยอดชู้...
เมื่อเพลงแรกได้ถูกปล่อยผ่านทุกคลื่นวิทยุและรายการเพลงทางโทรทัศน์ ก็เกิดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีที่ทรงพลังที่สุด เซอร์ไพรส์ที่สุดและถูกถามหามากที่สุด เรียกได้ว่า "ธงไชยฟีเวอร์"กลับมาแล้ว

     แค่เปิดตัวอัลบั้มก็พบความพิเศษส่งท้ายปีที่เบิร์ดตั้งใจนำมาฝากแฟนๆ เพลง "แฟนจ๋า" เขียนคำร้องโดย เจ้าพ่อแร็พเปอร์เมืองไทย "โจอี้บอย" และแขกรับเชิญที่เสริมทัพความยิ่งใหญ่นี้ด้วย "จินตหรา พูนลาภ", "แคทลียา อิงลิช", "นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้" เพลงจังหวะสนุกสนานที่มีเสน่ห์ความเป็นไทย โดยเพิ่มภาษาถิ่นอีก 3ภาค อีสาน เหนือ และใต้ลงไปในเพลง เอาใจคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังได้ทีมงานระดับแถวหน้ามาร่วมทำเพลงอีกด้วย และเป็นไปตามคาด ยอดสั่งจองของเทปชุดนี้หลั่งไหลมากมายที่สุดเป็นประวัติการณ์

     • ที่สุดของความเซอร์ไพรส์
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่ขนเพลงพิเศษอัดแน่นทั้งอัลบั้ม แถมแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ซึ่งใครจะไปรู้ว่าการพบกันของสุดยอดนักร้องคนละแนวดนตรีจะมาร่วมงานกันได้ จินตหรา พูนลาภ กับเพลง "มาทำไม" เพลงรักจังหวะสนุกสนาน สไตล์พ่อแง่ยิ้มอนกับดนตรีที่ผสมผสานเพลงสตริงกลิ่นอายลูกทุ่งได้อย่างลงตัวที่สุด ผลลัพธ์ คือ กลายเป็นเพลงยอดนิยมที่สุด แฟนๆชอบฟังที่สุด เสริมให้อัลบั้มชุดนี้แรงคูณสองแบบรั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่

     • ที่สุดของความนิยม
เป็นเพียงไม่กี่อัลบั้มของนักร้องไทย ที่จะมีเพลงฮิตทั้งอัลบั้ม ทุกเพลงภายใต้อัลบั้มนี้ได้ใส่ความเป็นไทยลงไปด้วย ซึ่งแฟนๆร้องตามกันได้ทุกเพลงและครองอันดับเพลงฮิตในหลายๆคลื่นวิทยุนานหลายเดือนเลยทีเดียว ซึ่งทุกเพลงพูดได้ว่า ไม่มีใคร...ไม่รู้จัก ได้แก่ รู้ไหม(ว่าฉันคิดถึง)*, อยากเป็นแฟนเธอ* (*เขียนคำร้องโดย เสก โลโซ), ชาติก่อนมาลี...ชาตินี้แครอน, อย่างแรง, แก้วตา-แก้วโตว, ต้องโทษดาว, เต้นรำทำครัว, บ้านของเรา และสวัสดีปีใหม่

      • ที่สุดของกระแสตอบรับ
ด้วยกระแสตอบรับจากคนไทยทั้งประเทศ จนเกิดเสียงเรียกร้องคอนเสิร์ตที่แฟนๆอยากชมมากที่สุด และบัตรถูกจำหน่ายหมดไวที่สุด คอนเสิร์ต ฟ.แฟน ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามคำเรียกร้อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นนี้ จนเกิดคอนเสิร์ต ฟ.แฟน Fun Fair ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นกระแสคอนเสิร์ตที่คนอยากดูมากที่สุดแห่งยุค และมีทัวร์คอนเสิร์ตไปทุกภาคของประเทศ

     •ที่สุดของสถิติ
นับเป็นอัลบั้มหนึ่งเดียวที่กระแสแรงที่สุดของวงการเพลงไทย ด้วยสถิติยอดขายเกิน 5 ล้านชุด และจากความนิยมที่ยังคงเพิ่มขึ้น จึงออกอัลบั้มพิเศษ ออกมาสานต่อความสำเร็จทันที คือ อัลบั้ม "แฟนจ๋า สนิทกันแล้วจ้ะ" นำร่องด้วยเพลงสนุกสนานแบบไทยๆ "ขันหมากระทึกใจ" มาสร้างกระแสนิยมอีกระลอก

     • The one and only
จากยอดขายในระดับหลายล้านชุด เพลงฮิตนับร้อยๆเพลง คอนเสิร์ตใหญ่ร่วมร้อยรอบ ถือเป็นสถิติที่ต้องบันทึกไว้ในวงการเพลงที่ไม่มีใครมาลบได้ รวมถึงความสามารถรอบด้านที่เบิร์ดนำเสนอผ่านผลงานต่างๆ และมอบความสุขให้แฟนๆมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นต้นแบบและไอดอลของนักร้องรุ่นใหม่ๆอีกด้วย และจากความสำเร็จทั้งจากผลงานที่ผ่านๆมา ภายใต้ชื่อ "ธงไชย แมคอินไตย์" บรรดาสื่อและแฟนเพลงชาวไทย ต่างยกให้เป็น "ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย"

 

 

 

 

ขอขอบคุณบทความจาก ; https://pantip.com/topic/36439197