ปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้กระแสลีกฟุตบอลแผ่นดิน “สยาม” มาแรงอย่างสุดขีดชนิดที่คอ “บอลนอก” ยังต้องคิดหนัก...หันกลับมาเสพติด “บอลไทย” ซึ่งเปรียบดั่งสถานีที่คอยดึงดูดเยาวชนผู้คลั่งไคล้เกมลูกหนังแบก “ความฝัน” มุ่งหวังเข้าสู่ถนนสายฟุตบอลระดับอาชีพกันอย่างคับคั่ง


“ตรรกะ” ที่เกริ่นมา...ส่งผลให้มีแข้งดาวรุ่งระดับ “ยังเติร์ก” หลายรายที่นับนิ้วรอวัน “แจ้งเกิด” รอสลัดคราบเป็น “ช้างศึกยังบลัด” ในอนาคต

 

วันนี้เราเสนอ เด็กหนุ่มเลือดช้างศึกยุคใหม่ “เบบี้โกลโปลิศ” ภิญโญ อินพินิจ

บทนำพอสังเขปสำหรับหนุ่มคนนี้

ภิญโญ อินพินิจ เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 เป็นนักฟุตบอลไทยเกิดที่จังหวัดเลย ที่ประเทศไทย ภิญโญใช้ช่วงเวลาวัยเด็กที่จังหวัดเลย ก่อนจะย้ายมาเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนที่โรงเรียนดรุณากาญจนบุรี โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพระงาม จ.นครปฐม ส่วนในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ภิญโญมาเล่นฟุตบอลให้กับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จังหวัดปทุมธานี จนได้แชมป์ฟุตบอล 7 สีและแชมป์ฟุตบอลนักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้มีโอกาสเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่าง สโมสรฟุตบอลการบินไทย-ลูกอีสาน ซึ่งเป็นสโมสรพันธมิตรกับทางอินทรีเพื่อนตำรวจ จนกระทั่งปัจจุบัน เลื่อนมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวกับสโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจในตำแหน่งกองหน้า ได้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดเยาวชน และชุดใหญ่ในปี พ.ศ. 2556

 





โกล.คอม : สวัสดีครับ “โอเว่นแห่งตำรวจ” เอ้ย.. “น้องจุ๊ป”

ภิญโญ อินพินิจ : สวัสดีครับ แหม..ผมชื่อจุ๊ปครับ ฮ่าๆ

โกล.คอม : ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าตอนนี้ “จุ๊ป” คือผู้เล่นดาวรุ่งลำดับต้นๆของเมืองไทยที่น่าจับตามองเลยนะ

ภิญโญ อินพินิจ : ขนาดนั้นเลยหรอครับ? งั้นก็ขอบคุณครับ แต่..สำหรับผมคิดว่ายังมีอะไรอีกมายที่ต้องปรับปรุงและเร่งพัฒนาตัวเองให้ดี ขึ้น กว่านี้เยอะเลยครับ

โกล.คอม : โอ้ว! ถือเป็นทัศนคตีที่ดีมาก แต่ตอนนี้ “จุ๊ป” ช่วยเล่าเรื่องราวชีวิตก่อนจะมารู้จักคำว่า “ฟุตบอล” พอสังเขปของตัวเองก่อนได้ไหม ?

ภิญโญ อินพินิจ : ไม่มีปัญหาครับ ก่อนอื่นผมชอบเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เล่นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ตอนนั้นพ่อกับพี่ชายเป็นคนพาผมไปเล่นอยู่แถวบ้านที่ จ.เลย ซึ่งท่านถือเป็นโค้ชคนแรกในชีวิตของการเล่นฟุตบอลผมเลยก็ว่าได้นะ (555+) แล้วพอเล่นไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกชอบเพราะมันสนุก เพราะพี่ชายผมจะเล่นด้วยประจำ



โกล.คอม : แล้วขณะนั้นมีความคิดอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพบ้างมั้ย?


ภิญโญ อินพินิจ : ก็มีนะครับ เพราะตอนเด็กๆชอบดูทีมชาติไทยเวลาลงแข่ง เห็นก็มักจะมีความรู้สึกว่าซักวันอยากไปยืนตรงจุดๆนั้นบ้าง หรือเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบพวกพี่เค้าบ้าง และมีครั้งหนึ่งที่ผมเรียนอยู่ ตอนอยู่ในห้องครูให้งาน มาพร้อมหัวข้อ “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ซึ่งเพื่อนผมส่วนใหญ่เค้าก็พากันวาด ตำรวจ บ้าง คุณหมอ บ้าง... แต่เชื่อมั้ย ? ผมเป็นคนเดียวที่วาดรูป ตัวเองใส่รองเท้าสตั๊ดยืนเท่ห์เหยียบลูกบอล เปรียบดั่งตัวเองนักฟุตบอลระดับโลก(555+) ก็ไม่รู้คนอื่นจะมองยังไง แต่รูปนั้นมันคือแรงบันดาลใจสำหรับผมเลย

โกล.คอม : ไม่น่าพอโตมาแล้วเล่นบอลเก่ง เพราะมีพื้นฐานการเล่นและชอบบอลมาตั้งแต่เด็กนี่เอง ว่าแต่ “จุ๊ป” เริ่มเล่นจริงๆจังๆช่วงไหน

ภิญโญ อินพินิจ : ก็คงเป็นช่วงชีวิตมัธยมปลายครับ ผมศึกษาเรียนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบ ปทุมธานี ตอนนั้นผมโชคดีมากที่มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลรายการใหญ่ๆ สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ และมันก็มีทั้งประสบความสำเร็จ และล้มเหลวตามภาษาของเกมกีฬาบ้าง

โกล.คอม : แล้วรายการไหนที่ “จุ๊ป” ประสบความสำเร็จและภูมิใจสุดๆบ้างหละ?

ภิญโญ อินพินิจ : ก็คงจะเป็นแชมป์ฟุตบอลกรมพละศึกษารุ่นอายุ 18 ปี ถ้วย ข. ปี54 , แชมป์กีฬานักเรียนนักศึกษาระดับประเทศที่ จ.อุบลราชธานี และแชมป์ฟุตบอลกีฬา 7 สีแชมป์เปียนคัพ ในปี55 ครับ



โกล.คอม : โอเค งั้นเรามาพูดถึงสโมสรแรกในการเล่นฟุตบอลอาชีพของ “จุ๊ป” กันหน่อย

ภิญโญ อินพินิจ : ทีมลูกอีสาน (ด.2) นี่แหละครับ เนื่องจากช่วงที่เรียนอยู่สวนกุหลาบ ทางโรงเรียนผมเป็นพันธมิตรทางฟุตบอลกับสโมสรอินทรีเพื่อนตำรวจ และก็ดึงพวกผมไปเล่นให้ทีมลูกอีสาน ซึ่งเปรียบเสมือนอะคาเดมี่ของทีมเค้า นี่แหละถือเป็นจุดเริ่มต้นในการค้าแข้งบนถนนสายฟุตบอลอาชีพของผม

โกล.คอม : ซึ่งสโมสรแห่งนี้เองที่ทำให้คุณพัฒนาฟอร์มการเล่น และโชว์ศักยภาพที่แท้จริงออกมา จนกระทั่งมีชื่อติดเป็น 1ใน 25 ขุนพลทีมชาติไทยชุดสู้ศึกซีเกมส์ปลายปีที่พม่า ‘’จุ๊ป’’ รู้อย่างไรบ้าง?

ภิญโญ อินพินิจ : ย้อนกลับไปครั้งแรกเลยนะ ที่ผมมีชื่อติดทีมชุดนี้ก็คือนัดอุ่นเครื่องเจอกับพัทยาฯ ตอนนั้นบอกตรงๆรู้สึกเกร็งและกดดันพอสมควร เพราะ
เหมือนเราเป็นเด็กใหม่ แต่พอซ้อมไปเรื่อยๆ ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ และพอได้ลงเล่นความกดดันก็ลดลงไป แต่ก็ไม่คิดว่าเราจะติดไปเล่นที่พม่าจริงๆ ส่วนตัวก็ดีใจและเป็นเกียรติมากครับ ทั้งตัวผม ครอบครัวและสโมสร ซึ่งจากนี้ไปก็จะหมั่นฝึกซ้อมให้หนักขึ้น เพื่อพัตนาขีดความสามารถที่มีให้สูงขึ้นกว่าเดิม

โกล.คอม : งั้นสู้ต่อไป..อย่าหยุดการพัฒนา! เชื่อว่าแฟนบอลทุกคนก็กำลังจับตามองคุณอยู่ แล้วเป้าหมายต่อจากนี้หละ?

ภิญโญ อินพินิจ : อนาคตผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนนะ แต่สำหรับผมจะทำทุกวันให้ดีที่สุด หากมีโอกาสลงสนามไม่ว่าจะในฐานะผู้เล่นสโมสรหรือในนามทีมชาติ ผมก็จะลงเล่นให้เต็มที่สมกับการที่โค้ชให้โอกาสลงเรา ซึ่งผลที่ได้แม้มันจะออกมาดีหรือไม่ดี ผมก็ไม่เสียใจหรอกเพราะผมได้ทำเต็มที่แล้ว



โกล.คอม : แล้วใครหละที่เป็นต้นแบบหรือ “ไอดอล” ในการเล่นฟุตบอลของ “จุ๊ป”


ภิญโญ อินพินิจ : “พี่เก่ง” สุรชาติ สารีพิมพ์ ครับเพราะผมมองว่าพี่เค้ามีความเป็นมืออาชีพมาก ทั้งในและนอกสนาม คู่ควรเป็นแบบอย่างของรุ่นน้องในทีมมาก ที่สำคัญเป็นคน จ.เลย บ้านเดียวกันกับผมด้วย ฮ่าๆ

โกล.คอม : ว้าว... “พี่เก่งช่างแอร์” นี่เอง ^^ สุดท้ายนี้มีอะไรฝากถึงแฟนบอลและน้องๆเยาวชนที่ติดตามผลงาน “จุ๊ป” ไหม

ภิญโญ อินพินิจ : สำหรับน้องๆเยาวชนที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก็ขอให้เดินหน้าทำตามความฝันต่อไป แม้บางครั้งอาจมีช่วงเวลาที่ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่เชื่อเถอะครับว่าความพยายามอยู่ที่ไหน..ความสำเร็จอยู่ที่ไหน ขึ้นอยู่กับมันจะมาช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง ยังไงก็อย่าหยุดฝันครับ ถ้ายังไปไม่ถึง..


และ นี่คือเรื่องราวจากอดีตจนถึงปัจจุบันของเด็กหนุ่มที่ชื่อ “ภิญโญ อินพินิจ” ผู้เปี่ยมไปด้วย “พรสวรรค์” และ “พรแสวง” ซึ่งจากสองมือที่เคยวาดฝันบนแผ่นกระดาษ...แต่วันนี้เขากำลังเดินตามรอยความ ฝันด้วยสองเท้าบนพื้นสนามหญ้า

อนาคตเส้นทางเกมลูกหนังของ “เบบี้โกลโปลิศ” จะเป็นอย่างไร ? สังเวียนบนฟอร์หญ้าสีเขียวจะเป็นคำตอบ

 

 

ที่มา:http://www.goal.com

 

Go to top